หน้าแรก เกี่ยวกับเรา ข้อมูลประเทศที่น่ารู้ สถาบันเอเจนย์ ข่าวและกิจกรรม ทุนการศึกษา บความน่ารู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์
เว็บไซต์เพื่อการศึกษาต่อต่างประเทศ ทุนการศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่างประเทศ
บทความการศึกษา
สนใจเรียน IELTS, TOEIC คลิ๊กเลย


ข้อมูลประเทศแคนาดา Canada

ข้อมูลทั่วไป

แคนาดา คนส่วนใหญ่มักจำธงประจำชาติแถบขาวแดงกับใบเมเปิล ลักษณะอันโดดเด่นของประเทศ คือ ความกว้างใหญ่และสวยงามที่ดึงดูดผู้คนให้มาสำรวจ แคนาดามีพื้นที่ 9,970,000 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 30 ล้าน คน สืบเชื้อสาย ชาวอังกฤษ 28 % ฝรั่งเศษ 23 % อิตาเลียน 3 % ชนเผ่าดั้งเดิม (First Nation) 2 % และเชื้อชาติ ิอื่นๆที่ใช้ ภาษาอังกฤษ นับถือศาสนาคริสต์ทั้งนิกายคาทอลิก และโปรแตสแตนท์ ปกครองในระบอบรัฐธรรมนูญ เมืองหลวง คือ ออตตาวา

แคนาดาเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากรัสเซีย พรมแดนตอนใต้ติดกับสหรัฐอเมริกา ตามสภาพภูมิศาสตร์ แคนาดาแบ่งเป็น 10 พื้นที่ 7 มณฑล และ 2 เขตดินแดน แต่ละมณฑล จะมีเมืองหลวง เป็นของตัวเองดังต่อไปนี้

มณฑลบริติชโคลัมเบีย (วิคตอเรีย)
มณฑลนิวบรันสวิค (เฟร็ดเดอริคตัน)
มณฑลอัลเบอร์ต้า (เอ็ดมันตัน)
มณฑลพริ้นซ์ เอ็ดเวิร์ด ไอส์แลนด์ (ชาร์ล็อตทาวน์)
มณฑลซาสแกสชวาน (รีไจน่า)
มณฑลโนวาสโกเทีย (ฮาลิแฟกซ์)
มณฑลมานิโทบา (วินนิเปก)
มณฑลนิวฟาวแลนด์ (เซนจอห์น)
มณฑลออนตาริโอ (โตรอนโต)
มณฑลควิเบก(ควิเบกซิตี้)

สภาพภูมิอากาศ

แคนาดามี 4 ฤดูกาล คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ถึงแม้ในช่วงเดียวกันอากาศ จะแตกต่างกัน ในแต่ละภาค ภาคเหนือจะมีอากาศหนาวเย็น ในขณะที่ทางใต้จะเป็นเขตอบอุ่น ทำให้มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่น มีอากาศ ชื้นทางชายฝั่งทั้งตะวันตกและตะวันออก ทั้งยังมีฝนตกในหน้าหนาวด้วย ช่วงที่อบอุ่นที่สุดคือ ระหว่างเดือน มิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม จะมีอุณหภูมิสูงกว่า 20 องศาเซลเซียส

ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง ล้วนแต่เป็นช่วงที่น่าไปเยือน หากอยากที่จะไปเล่นสกีก็สามารถไปในฤดูหนาว หรือฤดูใบไม้ผลิก็ได้ สำหรับผู้ที่รักการแคมปิ้ง และอยากขึ้นไปท่องเที่ยวตอนบนๆของประเทศ ควรไปในเดือน กรกฎาคมถึงสิงหาคมจะดีที่สุด ส่วนช่วงเวลาที่คนท่องเที่ยวมากที่สุด จะอยู่ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน

เวลา

เนื่องจากแคนาดาเป็นประเทศกว้างใหญ่ จึงแบ่งเวลาออกเป็น 6 โซนตามพื้นที่ คือ Pacific Standard Time, Mountain Standard Time, Central Standard Time, Eastern Standard Time, Atlantic Standard Time และ Newfoundland Standard Time โดยแต่ละโซนเวลาต่างกัน 1 ชั่วโมง มีเพียงโซนนิวฟาวด์แลนด์ ที่เวลาต่างออกไปครึ่งชั่วโมง และโซนแปซิฟิค ต่างกับเวลาทีกรีนิช 8 ชั่วโมง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าโซนแปซิฟิคทางซ้าย สุดเวลา 12.00 น. เขตภูเขาจะเป็นเวลา 13.00 น. เซ็นทรัลเวลา 14.00 น. เวลาเขตอีสเทิร์น 15.00 น. เวลา แอตแลนติก 16.00 น. และเวลาที่นิวฟาวด์แลนด์จะเป็น 16.30 น. โดยที่กรีนิชจะเป็นเวลา 20.00 น. ขณะที่เวลาของกรุงเทพฯ คือ 2.00 น. ของวันรุ่งขึ้น (โซนแปซิฟิคเวลาช้ากว่าไทย 14 ชั่วโมง)

ภาษา

แคนาดาเป็นประเทศที่มีภาษาราชการสองภาษา คือ ภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส ประชากรส่วนใหญ่ (ร้อยละ 75) ของชาวแคนาดาที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสอาศัยอยู่ที่ควิเบค ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศ แต่ชุมชนที่ใช้ ภาษาฝรั่งเศส ก็มีอยู่ทั่วไปในประเทศโดยทั่วไปแล้วคาดว่ามีประชากรทั่วโลก 800 ล้านคนที่พูดภาษาอังกฤษ และ 250 ล้านคนที่พูดภาษาฝรั่งเศส โดยเหตุที่แคนาดาเป็นประเทศที่ใช้สองภาษา แคนาดาจึงให้การอบรมการใช้ ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาแรก (ESL) และการใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่สอง (FSL) สำหรับนักศึกษาที่ต้องการเรียนรู้ภาษาใดภาษาหนึ่งหรือทั้งสองภาษา

ระบบเงินตราและอัตราการแลกเปลี่ยน

เงินแคนาดาเรียกว่า แคนาเดียนดอลล่าร์ (CND) โดยมีอัตราแลกเปลี่ยน CND 1 = 30 บาทโดยประมาณ ธนาคารจะเปิดทำการทั่วไปวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 17.00 น.

ข้อควรทราบสำหรับวีซ่านักเรียน
สำหรับน้องๆที่ต้องการวีซ่าแบบนักเรียนจะต้องลงทะเบียนเรียนอย่างต่ำ 7 เดือน ขึ้นไปค่ะถึงจะเป็นวีซ่าแบบนักเรียนค่ะ

เอกสารประกอบการยื่นวีซ่านักเรียน

1. กรอกแบบฟอร์มนักเรียนแคนาดา
2. ใบตอบรับจากสถาบันที่น้องจะไปเรียนที่แคนาดา (พร้อมตัวจริง)
3. หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) อย่างน้อยมีอายุการใช้งานได้อีก 6 เดือน (ทุกเล่ม)
4. รูปถ่ายปัจจุบัน 4 รูป 2 นิ้ว
5. หนังสือรับรองจากโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา (Transcript) ใบรับรองการทำงาน ตั้งแต่เรียนจบจนถึงปัจจุบัน
6. นักเรียนที่มีอายุ 18 ปี หรือมากกว่า ต้องยื่นหลักฐานประวัติอาชญากรรมด้วย (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ)
7. บัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้สมัคร
8. สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ออกค่าใช้จ่าย
9.หลักฐานการทำงานของผู้ออกค่าใช้จ่าย
10. ใบรับรองจากธนาคาร (Statement)

ระบบการศึกษาของแคนาดา

ระบบการศึกษาของแคนาดาประกอบด้วยสถาบันการศึกษาทั้งขงรัฐและเอกชน ตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงระดับมหาวิทยาลัย ภายใต้รัฐธรรมนูญของแคนาดา การศึกษาถือว่าเป็นความรับผิดชอบของมณฑล เพราะฉนั้นแต่ละมลฑลจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยทั่วไป ปีการศึกษาของที่นี่จะเริ่มในเดือน กันยายน จนถึงมิถุนายนถัดไป ระบบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยเป็นของภาครัฐทั้งหมด

ระดับประถมศึกษา

ชั้นประถมศึกษาในแต่ละมณฑลจะมีความแตกต่างกันดังนี้ คือ

1. กลุ่มที่มีชั้นประถม 1-8 คือ มณฑล มานิโตบา
2. กลุ่มที่มีชั้นประถม1-7 คือ มณฑล บริติชโคลัมเบีย และ เขตยูคอน
3. กลุ่มที่มีชั้นประถม 1-6 คือ ทุก มณทลยกเว้นที่กล่าวมาทั้งหมด

ระดับมัธยมศึกษา

โรงเรียนรัฐส่วนใหญ่เป็นแบบสหศึกษา ส่วนของ เอกชน นั้นมีทั้งแบบหญิงล้วน ชายล้วน หรือ สหศึกษา บางโรงเรียนก็เป็นโรงเรียนประจำ จำนวนปีการศึกษาในระดับมัธยมจะแตกต่างกันไปในแต่ละมณฑล แต่เมื่อรวมการเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาแล้วจะรวมใช้เวลาเรียน 12 ปี ข้อยกเว้นคือ มณฑลควิเบคจะจัดระบบชั้นมัธยมเลยไปอีก 1 ปี รวมเวลาเรียน 13 ปี และเมื่อเรียนไปอีก 3 ปีก็จะได้รับปริญญาตรี ในขณะที่มณฑลอื่นๆ หลักสูตรป.ตรีจะใช้เวลาเรียน 4 ปี

ระดับมหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ของแคนาดามีทั้งขนาดเล็กและใหญ่แตกต่างกันไป โดยทั่วไปจะไม่มีการสอบเข้า
แต่ละมหาวิทยาลัยจะมีมาตรฐานของตนเอง โดยส่วนใหญ่จะดูความสามารถทางด้านภาษาสำหรับนักศึกษา
ต่างชาติจากผลคะแนน TOEFL หรือ ITELTS โดย TOEFL ต้องมีคะแนน อย่างต่ำ 550 ระยะเวลาการศึกษา
ในมหาวิทยาลัยในระดับปริญญาตรีของแต่ละมณฑลนั้นแตกต่างกันไปจาก 3-5 ปี ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัย
หลักสูตรป.ตรีโดยทั่วไปจะใช้เวลาเรียนประมาณ 3 ปีถ้าบางสาขาอาจจะมีหลักสูตรเรียนด้วยฝึกงานด้วยจะใช้ระยะ
เวลาประมาณ5 ปีสำหรับหลักสูตร ป.โท จะใช้ระยะเวลาประมาณ 1ปี -2 ปี สำหรับหลักสูตรปริญญาเอกจะใช้เวลา
เรียนประมาณ 3ปี – 5ปี

เอกสารและขั้นตอนที่ต้องใช้ในการสมัครเรียน

สำหรับการเข้าศึกษาต่อในสถาบันของประเทศแคนาดานั้นควรตรวจสอบวันเปิดรับสมัครและปิดรับสมัครให้ดีเพราะบางสถาบัน อาจจะมีระยะเวลาที่กำหนดไว้แล้วหลังจากนั้นควรจะจัดเตรียมเอกสารให้พร้อมและครบถ้วนตามแต่ละสถาบันนั้นกำหนดเนื่อง จากถ้าเอกสาร ไม่ครบถ้วนทางสถาบันอาจจะไม่พิจารณารับเข้าศึกษาต่อได้เพราะสถาบันการศึกษาส่วนใหญ่เค้าจะพิจารณาจาก หลักฐานที่ส่งไป แล้วจะส่งจดหมายตอบรับกลับมาให้เราเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการขอวีซ่านักเรียน อาจแนบรายละเอียด การลงทะเบียนเรียนมาด้วยควรเริ่มเตรียมการล่วงหน้าอย่างน้อยประมาณ 1 ปี เนื่องจากการติดต่อสถานศึกษา การสอบต่าง ๆ การส่งเอกสารและการพิจารณาใบสมัครใช้เวลามาก

กรอกใบสมัครของสถาบันให้เรียบร้อยอ่านให้ระเอียดว่าทางสถาบันต้องอะไรบ้าง

- ค่าธรรมเนียมการสมัคร (Application Fee) แล้วแต่สถานศึกษาจะกำหนด
- หลักฐานการศึกษาต่างๆ (Transcript) ฉบับจริงจากสถานศึกษาที่เราจบ
- Transfer credit อันนี้กรณีที่เรียนอยู่แล้วอยากย้ายไปเรียนที่อื่น
- Educational purpose/essay เรียงความ บทเรียงความประวัติส่วนตัวและจุดประสงค์ในการศึกษาต่อ ประมาณ 300-500 คำหรือแล้วแต่ละสถาบันจะกำหนด
- Evidence of English level proficiency คะแนนผลสอบ IELTS ,TOEFL, GRE หรือ GMAT สำหรับผู้สมัครเข้าศึกษาในระดับปริญญาโทหรือเอก ผลสอบเหล่านี้ต้องขอให้ศูนย์สอบ เช่น Education Testing Service (ETS) ส่งผลไปยังสถานศึกษาโดยตรง (รายงานผลสอบที่ส่งจากศูนย์สอบไปยังสถานศึกษานี้ เรียกว่า Official Score Report) หรือใบประกาศการเรียนภาษา
- จดหมายรับรองฐานะทางการเงิน (Financial Statement)ของผู้ปกครอง ในกรณีที่เป็นนักเรียนทุนควรมี จดหมายรับรองการรับทุนแนบไปด้วย
- Letters of recommendation จดหมายรับรองค่ะ ถ้าจะให้ดีขอแนะนำให้เป็นจดหมายรับรองจากอาจารย์ที่สอนสำหรับนักศึกษาที่ ต้องการจะเข้าศึกษาต่อในระดับปริญาโทและปริญญาตรีที่มีประสบการณ์ทำงานขอแนะ นำให้ขอจากหัวหน้างาน1 ฉบับ และอาจารย์อีก 1 ฉบับจะดีที่สุดค่ะ

ปีการศึกษา ปีการศึกษาในแคนาดามีกำหนดภาคเรียนแตกต่างกันออกไปดังนี้

- Fall Semester เปิดประมาณกันยายน-ธันวาคม
- Spring Semester เปิดประมาณมกราคม-เมษายน
- Summer Session เปิดประมาณพฤษภาคม-สิงหาคม

การประกันสุขภาพ

สำหรับการประกันสุขภาพในประเทศแคนาดานั้นค่าเบี้ยประกันจะแตกต่างกัน ออกไปบ้างเล็กน้อยแต่แนะนำให้ใช้ประกันสุขภาพของรัฐบาลจะสะดวกกว่าสำหรับ ความคุ้มครองจะริ่มเมื่อเดินทางเข้าแคนาดาแล้วค่ะ

การทำงาน

สำหรับแคนาดาจะอนุญาติให้ทำงานภายในสถาบันที่กำลังศึกษาอยู่เท่านั้น แต่หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้วนักศึกษาสามารถยื่นขอวีซ่าทำงานได้แต่จะต้องทำ งานในอาชีพที่จบการศึกษามาเท่านั้น

ที่พักอาศัย มีหลายแบบให้เลือกค่ะ

- พักกับครอบครัวชาวแคนาดา
ที่พักแบบนี้ค่อนข้างได้รับความนิยมแพร่หลายเนื่องจากนักศึกษาหลายๆ คนอาจจะยังไม่ได้ภาษาหรือภายังไม่แข็งแรงการพัก กับครอบครัวต่างชาติจะช่วย ให้นักศึกษาฝึกการพูดภาษาอังกฤษได้เร็วขึ้นและยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมของชาว แคนาดาอีกด้วยค่ะ

- หอพักในสถานศึกษา
ส่วนใหญ่สถาบันการศึกษามักจะจัดที่พักไว้ในสถานศึกษาเพื่อคอยอำนวย ความสะดวกให้แก่นักศึกษาที่มาศึกษาในสถาบันเพื่อ ให้ง่ายต่อการเดินทาง หอพักนักศึกษาส่วนใหญ่ของทางสถาบันจะแยกหอพักหญิง หอพักชาย มีทั้งห้องพักแบบเดี่ยวและแบบคู่ บางครั้งอาจจะมีห้องน้ำในตัว หรือบางครั้งอาจจะมีห้องน้ำเป็นแบบรวม แต่หอพักของสถาบันส่วนใหญ่มักจะมีจำนวนจำกัด จึงควรสำรองห้องพักไว้แต่เนิ่น ๆ โดยการสอบถามไปยัง สถาบันที่เราต้องการไปศึกษาต่อค่ะ

- ที่พักแบบอพาร์ตเมนต์และแบบบ้านเช่า
Rooming House ที่พักแบบนี้ก็เป็นที่นิยมสำหรับน้องๆนักศึกษาหลายๆคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว สะดวกสบาย ลักษณะบ้าน ส่วนใหญ่เป็นบ้านเช่ามีหลายห้องนอน บางแห่งอาจจะไม่มีเฟอร์นิเจอร์ให้ บางแห่งอาจจะมีเฟอร์นิเจอร์ครบพร้อม ทั้งห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว เครื่องทำความร้อน(Heater) และอื่นๆอีกมากมาย แต่ส่วนใหญ่บ้านแบบนี้จะค่อนข้างมีราคาสูงตามแต่อุปกรณ์และ สิ่งอำนวยความ สะดวกต่างๆ โดยสามารถหาบ้านเช่าได้รอบๆสถาบันหรือบางครั้งอาจสอบถามจากเพื่อนร่วมสถาบัน ก็ได้ค่ะ


รับข่าวสารและโปรโมชั่น
Username
Password
สมัครสมาชิก | ลืมรหัสผ่าน
 


agent ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อนอก ทุนการศึกษา

agent ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อนอก ทุนการศึกษา

เอเจนท์ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อ ทุนการศึกษา